ชุมนุม 19 กันยา: “แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ” ประกาศเคลื่อนขบวนยึดสนามหลวง หากมวลชนล้น มธ.

กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" ประกาศจัดชุมนุมใหญ่ "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร" ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 19 ก.ย.นี้ ก่อนเคลื่อนขบวนยึดพื้นที่สนามหลวงปักหลักค้างคืน หากมวลชนล้นพื้นที่มหาวิทยาลัย ก่อนเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้องรัฐบาลในรุ่งเช้าของวันที่ 20 ก.ย.

"ในอดีตที่ผ่านมาสนามหลวงถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้จัดชุมนุม ทำกิจกรรมก็ดี พักผ่อนหย่อนใจก็ดี แต่ในระยะของรัฐบาล คสช. มีการล้อมรั้วปิดกั้น แย่งสนามหลวงออกไปจากประชาชน ดังนั้นการไปชุมนุมที่สนามหลวงจึงเป็นการยึดสนามหลวงคืนให้กับประชาชนไปในตัว" นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศในการแถลงที่ ม.ธรรมศาสตร์วันนี้ (9 ก.ย.)

การจัดชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นการนัดชุมใหญ่ของแนวร่วมธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 2 หลังจากทางกลุ่มจัดการชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ที่ มธ.ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งมีการประกาศข้อเรียกร้อง 10 ประการเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ทว่าในวันที่ 19 ก.ย. นี้ นายพริษฐ์ ระบุว่า "จะไม่มีการลดเพดาน" ข้อเรียกร้องของแนวร่วมฯ อย่างแน่นอน เพราะว่าข้อเรียกร้องเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ได้เป็นการทลายเพดานออกไปแล้ว ส่วนข้อเรียกร้องจะยกระดับจาก 10 ข้อ หรือไม่นั้น ทางแกนนำ ระบุว่า "ขออุบเป็นเซอร์ไพรส์"

"เราเปิดฟ้ากว้างให้กับสังคมนี้แล้ว และเราจะไม่ยอมให้ใครเอาเพดานมาปิดการเคลื่อนไหวของเราอีก" นายพริษฐ์กล่าว

น.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ในฐานะแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม คาดการณ์ว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมมาร่วมไม่ต่ำกว่า 50,000-100,000 คน ในวันที่ 19 ก.ย.

ทางแกนนำได้ เชิญชวนผู้ร่วมชุมนุมให้ เตรียมตัวพร้อมสำหรับการค้างแรมเพื่อเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 8.00 น. ของวันที่ 20 ก.ย.

กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ ยังเตรียมปิดพื้นที่ถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่ ม.ธรรมศาสตร์ ไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อให้ "ราษฎรมาดำเนิน" ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ

ส่วนการขออนุญาตการจัดชุมนุมกับทางมหาวิทยาลัย นายพิริษฐ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอการตอบรับอนุญาตให้จัดชุมนุม ทั้งนี้ทางแนวร่วมนักศึกษาฯ ไม่ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยที่ให้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ามีคณาจารย์ให้การรับรองการจัดชุมนุมตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดเงื่อนไขไว้

"ผมหวังว่าผู้บริหารจะไม่หลงลืมจิตวิญญาณของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ถ้าหลงลืม นักศึกษาก็จะตักเตือนผู้บริหารเอง"

ไม่หวั่นข้อหาบุกรุกเขตพระราชฐาน

ก่อนหน้านี้ มีการเผยแพร่ข้อมูลว่าพื้นที่สนามหลวง เป็นเขตพระราชฐานและเป็นโบราณสถาน หากผู้ใดบุกรุกจะมีโทษปรับและจำคุก นายภาณุพงษ์ จาดนอก หนึ่งในแกนนำ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความชอบธรรมในการดำเนินคดีกับประชาชน และหากเห็นว่าสนามหลวงไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ ก็ทำให้สนามหลวงไม่เข้าเงื่อนไขว่าต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ

เขากล่าวอีกว่า ตามมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ไม่ได้ระบุว่าห้ามชุมนุมในโบราณสถาน ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงไม่มีอำนาจตามกฎหมายใดมาบังคับใช้หรือดำเนินคดีกับประชาชน

เชื่อไม่เกิดความรุนแรงเหมือนอดีต

การรักษาความปลอดภัย ผู้จัดชุมนุมได้จัดทีมการ์ดรักษาความปลอดภัย ตั้งด่านตรวจอาวุธ และมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน แกนนำยังปฏิเสธว่าไม่มีการเจรจากับตำรวจนครบาล แต่เห็นว่าหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่การควบคุมผุ้ชุมนุมหรือสลายการชุมนุม แต่ต้องรักษาความปลอดภัยไม่ให้มีมือที่สามเข้ามาใช้ความรุนแรง

เมื่อถามว่าพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยมีประวัติศาสตร์ความรุนแรงจากรัฐในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 นายภาณุพงษ์ กล่าวว่า ปัจจัยเงื่อนไขในปัจจุบันคงไม่ย้อนกลับไปเหมือนในเหตุการณ์ในอดีตแล้ว ยืนยันว่าการชุมนุมยึดแนวทางสันติวิธี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายจะใช้สันติวิธีหรือไม่