โควิด-19: อาร์เจนตินาผ่านกฎหมายเก็บภาษีคนรวย 12,000 คน เพื่อมาใช้สู้โรคระบาด

ผู้ประท้วงรวมตัวที่ภายนอกรัฐสภาเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรอยู่ระหว่างการอภิปรายถกเถียงมาตรการดังกล่าว

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ, ผู้ประท้วงรวมตัวที่ภายนอกรัฐสภาเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรอยู่ระหว่างการอภิปรายถกเถียงมาตรการดังกล่าว

อาร์เจนตินาผ่านกฎหมายภาษีฉบับใหม่เรียกเก็บภาษีจากประชาชนผู้มีความมั่งคั่งเพื่อนำมาใช้จ่ายเพื่ออุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งบรรเทาทุกข์ในวิกฤตการระบาดโรคโควิด-19

วุฒิสภาของอาร์เจนตินา ลงมติเห็นชอบให้บังคับใช้กฎหมายภาษีที่ชื่อว่า "ภาษีผู้มั่งคั่ง" ซึ่งเป็นภาษีที่เรียกเก็บครั้งเดียว ด้วยมติ 42 ต่อ 26 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ที่มีความร่ำรวยและมีทรัพย์สินมากกว่า 200 ล้านเปโซ หรือราว 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 12,000 คน ต้องจ่ายภาษีดังกล่าว

ในวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ล่าสุด อาร์เจนตินามีผู้ติดเชื้อเกือบ 1.5 ล้านคน และเสียชีวิตเกือบ 40,000 คน

หนึ่งในสมาชิกสภาผู้ออกกฎหมาย บอกว่า การเก็บภาษีจะกระทบประชาชนราว 0.8% ของผู้เสียภาษีทั้งหมด ผู้ที่เข้าเกณฑ์เสียภาษีต้องจ่ายภาษีในอัตราก้าวหน้าสูงสุด 3.5% สำหรับผู้ที่พำนักในประเทศ ขณะที่ต่างชาติต้องเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าสูงสุดถึง 5.25%

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เงินภาษีที่เก็บได้ สัดส่วน 20% จะถูกนำไปใช้สนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง 20% ให้ทุนการศึกษานักเรียน 20% ใช้จ่ายในงบประมาณพัฒนาสังคม 15% และสนับสนุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 25%

ประธานาธิบดีอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซของอาร์เจนตินา คาดว่าจะเก็บภาษีได้ 300 พันล้านเปโซ ทว่าฝ่ายที่คัดค้านการเก็บภาษีฉบับนี้มองว่า นี่จะเป็นการลดทอนการลงทุนจากต่างชาติและไม่น่าจะเป็นการเก็บภาษีครั้งเดียว

ยอดผู้ติดเชื้อยืนยันที่แตะ 1 ล้านคนเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้อาร์เจนตินากลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรที่มีราว 45 ล้านคน นั่นเท่ากับว่าอาร์เจนตินาเป็นชาติทีเล็กที่สุดที่ต้องเผชิญตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงมาก

มาตรการปิดเมืองล็อกดาวน์ได้ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดหนักลงยิ่งขึ้น จากอัตราการว่างงานสูง ระดับความยากจนที่เพิ่มขึ้น และภาระหนี้สินของรัฐบาล ซึ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีอยู่เดิมของอาร์เจนตินานับตั้งแต่ปี 2018