พระมหาไพรวัลย์: 18 ปีในสมณเพศ สรุปเหตุการณ์ก่อนสึก 3 ธ.ค.

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ ผู้เผยแผ่คำสอนของพุทธศาสนาแนวบันเทิง ลาสิกขาแล้ววันนี้ (3 ธ.ค.) ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

พระนักเทศน์แห่งวัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ ผู้นี้กลายเป็นที่จับตามองจากสังคม รวมถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสม และความสำรวมในฐานะพระสงฆ์ระหว่างการออกอากาศสดการสอนธรรมะผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะตั้งแต่การไลฟ์สดคู่หรือ "แบตเทิล" กับพระมหาสมปอง ตาลปุตโต จากวัดเดียวกันเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

เวลาประมาณ 09.30 น. วันนี้ เพจเฟซบุ๊กของอดีตพระมหาไพรวัลย์ ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาเป็น "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. ได้โพสต์ภาพพิธีลาสิกขาต่อพระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งเป็นพระนักเทศน์ที่เขาให้ความเคารพและสนิทสนมกัน โดยมีพระมหาสมปองร่วมเป็นพยาน พร้อมกับเขียนข้อความว่า

"สิกฺขํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้า ขอบอกคืนสิกขา

วินยํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้า ขอบอกคืนพระวินัย

ปาโมกฺขํ ปจฺจกฺขามิ ข้าพเจ้า ขอบอกคืนปาฏิโมกข์

คิหีติ มํ ธาเรถ ขอท่านทั้งหลายจงจำข้าพเจ้าไว้ว่าเป็นคฤหัสถ์"

อีกโพสต์หนึ่งเป็นภาพนายไพรวัลย์สวมเสื้อยืดสีขาวและนุ่งโสร่งสีแดง ใส่นาฬิกาและสะพายย่าม พร้อมคำบรรยายภาพว่า "เริ่ม" และยังมีภาพนายไพรวัลย์กับมารดาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาบรรยายว่าแม่กำลังเตรียมเข้ารับการผ่าตัด

การสึกในวันนี้เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่พระมหาสมปองให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่าพระมหาไพรวัลย์จะสึกในวันที่ 4 หรือ 5 ธ.ค. หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสุดท้ายในฐานะพระสงฆ์ที่จังหวัดเชียงใหม่

เด็กชายที่กลายเป็น "พระมหา"

ราว 1 เดือนก่อนสึก พระมหาไพรวัลย์ให้สัมภาษณ์พิเศษบีบีซีไทย บอกเล่าถึงประวัติชีวิตให้ฟังว่า เขาเกิดในครอบครัวที่ยากจนใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี สาเหตุที่พ่อแม่ให้บวชเรียนตั้งแต่อายุยังน้อยคือจบชั้น ป.6 ก็เพราะ "ความยากจน"

พระมหาไพรวัลย์บอกว่าความจนทำให้เด็กบ้านนอกอย่างเขามีทางเลือกในการเข้าถึงระบบการศึกษาที่จำกัด และสำหรับคนต่างจังหวัดที่ฐานะไม่ดีแล้ว การบวชเรียนเป็นทางเลือกที่นิยมกันในการที่จะให้เด็กคนหนึ่งได้เล่าเรียนและหาความรู้

อีกเหตุผลหนึ่งคือครอบครัวของเขามีความผูกพันใกล้ชิดกับวัดมาแต่เดิม ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งก็บวชเรียน เข้าสู่เส้นทางสายพุทธศาสนาและประสบความสำเร็จจนจบมหาเปรียญ

"พอจบ ป.6 พ่อแม่ก็เห็นว่าการที่ส่งเรามาบวชน่าจะเป็นช่องทางที่ทำให้เราได้เข้าสู่การศึกษาที่ไปได้ไกล" พระมหาไพรวัลย์เล่า

เขาถูกส่งไปบวชที่ จ.สุโขทัย และเรียนนักธรรมบาลีที่นั่นเรื่อยมา ก่อนจะย้ายมาเรียนที่วัดสร้อยทองเพราะวัดในต่างจังหวัดไม่มีพระที่สอนเปรียญธรรมชั้นสูง พระมหาไพรวัลย์เรียนต่อจนจบเปรียญธรรม 9 ประโยค ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษาสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย และเรียนปริญญาโทสาขาพุทธศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมหจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะนี้เขากำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก สาขาวิชาสันติศึกษา ที่ มจร.

ถ้านับจากวันที่บวชเป็นสามเณรมาจนถึงปี 2564 นับช่วงเวลาที่บวชรวม 18 ปี

พระมหาไพรวัลย์บอกกับบีบีซีไทยว่าแม้การบวชเรียนจะทำให้เขา "มาได้ไกล" จริง แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้มีความรู้อย่างคนที่เรียนสายสามัญ และ "ถ้าเลือกได้ก็อยากมีองค์ความรู้อย่างที่คนทั่วไปเขาเรียนกัน"

"การเรียนของพระแตกต่างจากสายสามัญอย่างสิ้นเชิง... ทักษะที่เราอ่อนมากคือเรื่องภาษาอังกฤษ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย"

29 ต.ค. 2564

พระมหาไพรวัลย์กล่าวถึงการสึกของเขาอย่างเป็นทางการครั้งแรกทางเฟซบุ๊กไลฟ์คืนวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งวันต่อมาถูกโพสต์บนยูทิวบ์ในชื่อ "พระมหาไพรวัลย์สึกแน่ หากสังฆะไร้ความเป็นธรรม"

พระมหาไพรวัลย์ระบายความในใจหลายเรื่องและยังลั่นวาจาเตรียมลาสิกขาหลังจากรู้ว่าพระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ผู้ให้วิชาที่เคารพเหมือนบิดามารดา จะไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดเนื่องจากตัวของเขา

"พูดด้วยความสัตย์ตรงนี้ ณ วินาทีนี้ ยืนยันอีกครั้งว่า ถ้าเจ้าคุณอาจารย์พระราชปัญญาสุธีไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง อาตมภาพ พระมหาไพรวัลย์ ขอลาสิกขาฮะ… หนีความเป็นธรรมจากที่หนึ่ง ไปเจอความเป็นธรรมอีกที่หนึ่ง ไม่เอาฮะ"

พระมหาไพรวัลย์ร่ำไห้ขณะพูดถึงช่วงเวลาที่กอดแม่เป็นครั้งสุดท้ายในคืนก่อนบวชเมื่อ 18 ปีก่อน และขณะนี้แม่ของพระกำลังรักษาตัวจากมะเร็ง พร้อมยืนยันว่าหากลาสิกขาไปแล้วจะเป็นอุบาสกที่ดี กลับไปทำหน้าที่ดูแลแม่ อาจจะประกอบอาชีพเกษตรกร และยินดีพูดถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อย่างตรงไปตรงมายิ่งกว่าขณะดำรงสถานะสงฆ์

28 พ.ย. 2564

หลังจากเลี่ยงตอบคำถามสื่อมวลชนถึงความเป็นไปได้ในการสละสมณเพศยาวนานเกือบเดือน ในที่สุด พระมหาไพรวัลย์ วัย 30 ปี ก็ส่งสัญญาณผ่านแฟนเพจซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.9 ล้านคน ว่าความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ด้วยการลบคำว่า "พระ" ออกจากชื่อของตัว

เฟซบุ๊กแฟนเพจ "พระมหาไพรวัลย์" ถูกเปลี่ยนเป็น "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" พร้อมโพสต์ข้อความชวนคิดอย่างเช่น

"ใกล้จะได้สลัดปลอกคอแล้วสินะ"

"ขอบคุณพระศาสนาที่มอบทุกอย่างให้กับเด็กบ้านนอกคนหนึ่งคนนี้ ตลอดเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณข้าวน้ำจากศรัทธาของญาติโยมทุกคน..."

นอกจากนี้ยังมีข้อความขอบคุณพระมหาสมปอง วัดสร้อยทอง และพระมหานภันต์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ในฐานะครูบาอาจารย์และพี่ชายสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา

29 พ.ย. 2564

ความเคลื่อนไหวของ "พส. ไพรวัลย์" ในโลกออนไลน์ ทำให้สื่อมวลชนหลายสำนักไปปักหลักที่วัดสร้อยทองในเช้าวันรุ่งขึ้น (29 พ.ย.) เพื่อขอความชัดเจนในสถานะของพระนักเทศน์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ ทว่าไม่มีโอกาสได้เจอตัว มีเพียง "พส. ผู้พี่" ออกมารับหน้าผู้สื่อข่าวแทน

ในระหว่างนั้น พระมหาสมปองต่อสายวิดีโอคอลล์พูดคุยกับพระมหาไพรวัลย์ ซึ่งปลายสายฝากบอกผู้สื่อข่าวว่าไม่ต้องรอ เพราะไม่ได้อยู่วัด และอนุญาตให้พระมหาสมปองบอกข้อมูลแก่สื่อมวลชนทุกเรื่อง

แล้วก็เป็นพระมหาสมปองที่ออกมาแถลงแทนว่าพระน้องร่วมวัดเตรียมสึก โดยระบุว่า สาเหตุหลักมาจากประเด็นความอยุติธรรมในวงการสงฆ์ และการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง โดยคาดว่าพระมหาไพรวัลย์จะลาสิกขาในวันที่ 4-5 ธ.ค. ที่กำลังจะถึงนี้ หลังจบงานร่วมกันที่ จ.เชียงใหม่ และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองถูกสั่งห้ามทำเฟซบุ๊กไลฟ์คู่กันทุกวันศุกร์ แต่เหมือนโดนหลอกให้นิ่ง ไม่ให้พูด ซึ่งงดไปได้ได้ 2 สัปดาห์ ก็ไม่ไหว

พส. กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลได้อย่างไร

พระมหาไพรวัลย์ ผู้สอบเปรียญธรรม 9 ประโยคได้ตั้งแต่เป็นสามเณร และกำลังทำด็อกเตอร์สาขาวิชาสันติศึกษาที่ มจร. กลายมาเป็นพระนักเทศน์ที่เป็นที่นิยมบนโลกโซเชียลสูงสุดในช่วงปลายเดือน ส.ค. หลังไลฟ์สดสอนธรรมะบนเฟซบุ๊กแล้วมีญาติโยมโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) จากกลุ่ม "จ๊อกจ๊อก" เข้ามาคอมเมนต์พูดคุยรับส่งมุกหยอกล้อ "แกง" พส. กันอย่างสนุกสนาน จนเกิดเป็นกระแสข้ามแพลตฟอร์มไปยังชุมชนทวิตเตอร์ด้วย

หลังเป็นกระแสต่อเนื่องมาหลายวัน พระมหาไพรวัลย์ได้จัดประชันไลฟ์สดสนทนาธรรมกับพระมหาสมปอง พระพี่น้องร่วมวัดสร้อยทอง ตามคำเรียกร้องของชาวเน็ตในคืนวันที่ 3 ก.ย. สร้างปรากฏการณ์มีผู้รับชมไลฟ์เฟซบุ๊กในเพจ "พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ" สูงสุดพร้อมกันมากกว่า 200,000 คน รวมถึงมีเพจทางการของบรรดาคนดัง สำนักข่าว และสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาร่วมคอมเมนต์เพื่อโปรโมตและสร้างยอดเอนเกจเมนต์ให้เพจของตัวเองเป็นจำนวนมากโดยมิได้นัดหมาย

ไลฟ์ประชันธรรมะดังกล่าวได้กระแสตอบรับดีเกินคาด จนพระมหาไพรวัลย์ได้รับนิมนต์เชิญไปร่วมพูดคุยในรายการต่าง ๆ มากจนถึงกับโพสต์ข้อความว่า "สภาพพพพ คิวสนทนาธรรมแน่นมาก อันนี้ไม่ได้ขิงนะ"

โดยก่อนหน้านี้ พระมหาไพรวัลย์ดำเนินรายการ "ธรรมไปเรื่อย" บนยูทิวบ์ช่อง "พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ" มายาวนานกว่าปีแล้ว และเคยเป็นกระแสในโลกอินเทอร์เน็ตช่วงหนึ่งระหว่างที่ลงพื้นที่ร่วมกับ "หมอปลา" หรือนายจีรพันธ์ เพชรขาว เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ จ.สกลนคร ที่ต้องเผชิญกับความลำบากเนื่องจากถูกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นผีปอบจนต้องถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน

รวมศัพท์ "ต๊าซ" ที่ พส. เอามาเผยแพร่

นอกจากลีลาการเทศนาธรรมที่ถูกใจคนรุ่นใหม่แล้ว พระมหาไพรวัลย์ยังขึ้นชื่อเรื่องการใช้ศัพท์วัยรุ่น โดยเฉพาะศัพท์ที่ใช้ในวงการผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) จากกลุ่มต่าง ๆ แม้จะไม่ได้เป็นผู้คิดค้นหรือบัญญัติศัพท์เหล่านี้ขึ้นเอง บีบีซีไทยรวบรวมคำศัพท์และความหมายเบื้องต้น ดังนี้