ไวรัสโคโรนา : สธ.เร่งค้นหาผู้ที่อยู่ในสนามมวย-สถานบันเทิงอีกกว่า 500 คน หวั่นแพร่เชื้อ
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำชับให้ผู้ที่เดินทางไปสนามมวยลุมพินี สนามมวยราชดำเนินและสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ช่วงต้นเดือน มี.ค. ติดต่อกรมควบคุมโรคและกักกันโรคอย่างเคร่งครัด หลังจากพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนมากเชื่อมโยงกับพื้นที่ดังกล่าว
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าววันนี้ (20 มี.ค.) ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 50 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 322 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 50 รายนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 41 ราย คือ
- สนามมวย 18 ราย ได้แก่ ผู้ชมมวยที่มาจากต่างจังหวัด เซียนมวย ครูมวย และกรรมการ
- สถานบันเทิงย่านทองหล่อและรามคำแหง 5 ราย
- ผู้สัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันก่อนหน้านี้ 12 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กเล็กอายุ 6 เดือน
- ผู้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 6 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 9 ราย
- คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 ราย ได้แก่ นักศึกษาและพนักงานราชการที่เดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ
- ชาวเมียนมา 2 ราย
- ผู้ที่ทำงานในที่แออัดและเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 2 ราย เป็นไกด์นำเที่ยวและพนักงานรักษาความปลอดภัย
- ผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 3 ราย
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
นพ.สุวรรณชัยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อที่เป็นทารกวัย 6 เดือนที่เป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันในวันนี้ แต่ระบุว่าเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องป้องกันเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่ากังวลคือคนวัยหนุ่มสาวและวัยทำงานจำนวนไม่น้อยที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้กักกันตัวเองเมื่อไปทำกิจกรรมหรือเข้าไปในพื้นที่ที่เสี่ยงติดโรค ดังนั้นเมื่อติดเชื้อมาและไม่มีอาการเพราะร่างกายแข็งแรงก็จะกลายเป็นพาหะที่แพร่เชื้อให้กลุ่มเปราะบางเหล่านี้
ปัญหาใหญ่ยังอยู่ที่สนามมวย-สถานบันเทิง
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่าขณะนี้ผู้ติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับสนามมวยและสถานบันเทิงยังคงมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค. มีผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับสนามมวย 72 ราย และสถานบันเทิง 62 รายแล้ว
อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ สธ. กำลังเร่งค้นหาผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงคือสนามมวยและสถานบันเทิงเพิ่มเติม สำหรับสนามมวยนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้เพียง 55 รายและคาดว่ายังมีคนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอีกกว่า 500 คน ที่อาจได้รับเชื้อและไปแพร่สู่คนอื่น
"ยังคงมีผู้สัมผัสอีกมาก และเราก็จะพยายามค้นหาให้มากที่สุด" นพ.สุวรรณชัยกล่าวพร้อมกับแนะนำให้ผู้ที่เดินทางไปสนามมวยในช่วงเวลาดังกล่าวกักกันตัวเองที่บ้าน แยกตัวและข้าวของเครื่องใช้จากสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัว และสังเกตอาการตัวเองอย่างใกล้ชิด หากยังไม่มีอาการป่วยยังไม่ต้องรีบไปตรวจหาเชื้อเนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะไม่พบเชื้อ แต่หากมีอาการไข้หรือไอให้รีบเข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที
นพ.สุวรรณชัยประกาศย้ำให้ผู้ที่อยู่ในสนามมวยและสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6-8 มี.ค.ติดต่อสายด่วนกรมควบคุมโรคที่เบอร์ 1422 และกักกันตัวเองอย่างเคร่งครัด งดออกจากบ้าน งดกิจกรรมทางสังคม และหากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันทีพร้อมแจ้งประวัติการอยู่ในพื้นที่เสี่ยง
เปิดสถิติผู้ติดเชื้อ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก สธ. เปิดเผยผลการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย โดยใช้ข้อมูล ณ วันที่ 19 มี.ค. ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 272 คน มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
- พื้นที่ : กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ 213 คน ตามด้วย จ.สมุทรปราการ (12 คน), เชียงใหม่ (7 คน), ปัตตานี (6 คน), ชลบุรี (5 คน), ภูเก็ต (5 คน),ยะลา (3 คน), นครราชสีมา นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ2 คน , เพชรบูรณ์ กระบี่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครปฐม นครศรีธรรมราช นนทบุรี ร้อยเอ็ด สมุทรสาคร สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 คน
- เพศ : ในจำนวนผู้ป่วยที่พบทั้งหมด เป็นเพศชาย 66 % เพศหญิง 34%
- อายุ : ช่วงอายุที่มีผู้ป่วยมากที่สุด 3 อันดับแรก เป็นวัยหนุ่มสาวและคนทำงาน คือ
-ช่วงอายุ 30-39 ปี 79 คน
-ช่วงอายุ 20-29 ปี 51 คน
-ช่วงอายุ 40-49 ปี 46 คน
เพิ่ม 1,600 เตียงรองรับผู้ป่วย
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่าในขณะนี้โรงพยาบาลในเครือข่าย ทั้งโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลสังกัด กทม.และมหาวิทยาลัย ได้จัดเตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอีก 1,600 เตียง
สธ.ยังได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงแรม จัดเตรียมสถานพยาบาลพิเศษสำรองซึ่งจะสามารถรองรับได้อีก 450-500 เตียง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสถานที่ และภายในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะย้ายผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงและเฝ้าระวังอาการครบ 2 วันแล้วเข้าไป