จากอิแทวอนถึงถนนข้าวสาร กทม. กวดขันป้องกันเหตุร้าย เลี่ยงโศกนาฏกรรมเบียดกันตาย

31 ตุลาคม 2022

กทม. ตื่นตัว ถอดบทเรียนโศกนาฏกรรมอิแทวอน เริ่มกวดขันกิจกรรมฉลองฮาโลวีนถนนข้าวสาร รวมถึงวันลอยกระทง คลองโอ่งอ่าง 8 พ.ย. นี้ เน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ “ไม่เน้นขายของ”

ถนนข้าวสารแปลงโฉมด้วยการตกแต่งแฟนซี และเหล่าภูตผี เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคน ที่จะเดินทางมาเฉลิมฉลองค่ำคืนวันฮาโลวีน 31 ต.ค. 2565 แต่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในย่านอิแทวอนของเกาหลีใต้ กลายเป็นบทเรียน ที่ทำให้ผู้จัดงานต้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้รัดกุมขึ้น หลีกเลี่ยงเหตุสลดซ้ำรอยในไทย

เมื่อคืนนี้ ทีมข่าวบีบีซีไทยได้ลงพื้นที่ถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใน กทม. พบว่าร้างรวงทั้งสองฝั่ง ถูกตกแต่งด้วยแสงสี และธีมภูตผี เพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่คาดว่าจะมากถึง 20,000 คน เพราะถือเป็นปีแรกที่เฉลิมฉลองฮาโลวีนในบรรยากาศ “หลังโควิด”

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจข้าวสาร ออกมายืนยันว่า ภายหลังเกิดโศกนาฏกรรมอิแทวอนในเกาหลีใต้ ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้มากขึ้น แต่ส่วนตัวมองว่า ภูมิศาสตร์เชิง “กายภาพ” ของถนนข้าวสาร แตกต่างจากอิแทวอนมาก

“ภูมิศาสตร์ไม่คล้าย แต่ธุรกิจคล้ายกัน ถนนเอนเตอร์เทนเมนท์ (ถนนสายบันเทิง) คล้าย ๆ กัน” นายสง่า กล่าว

“อิแทวอน เป็นถนนที่คนไปได้ตลอด ไม่มีจุดคัดกรอง ไม่มีจุดอะไร มันเลยดูแลไม่ได้… ถนนของเขาที่มีผับเยอะ ๆ กว้าง 6 เมตร ของเรา 12 เมตร แล้วถนนที่เกิดอุบัติเหตุเป็นถนนลาดชัน เข้าออกแค่สองทาง แต่ทางออกของเรามี 7 ทาง”

อย่างไรก็ดี ทางผู้ประกอบการถนนข้าวสารและตำรวจ ไม่ได้ประมาท เพิ่มมาตรการความปลอดภัย ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าตรวจตรา ป้ายทางออกฉุกเฉินตามจุดต่าง ๆ และรถพยาบาลที่จะเข้าเตรียมรับสถานการณ์

กทม. ถอดบทเรียน

ภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตระหนกในเกาหลีใต้ ทำให้ทาง กทม. ซึ่งจะมีกิจกรรมเฉลิมฉลองเกิดขึ้น ต้องหันมาทบทวนบทเรียน เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงโศกนาฏกรรมเช่นนั้น

วันนี้ (31 ต.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้เป็นบทเรียนที่สำคัญและเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเป็นเหตุไม่คาดฝัน จากผู้คนที่ออกมาเฉลิมฉลองมหาศาล นับแต่เกิดโควิด

คำบรรยายภาพ, คาดว่าถนนข้าวสารจะมีผู้คนมาฉลองฮาโลวีน 20,000 คน

เบื้องต้น นายชัชชาติ ได้แจ้ง น.ส.ทวิดา กมลเวชช์ และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เพื่อเตรียมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับกิจกรรมวันลอยกระทง ในเดือน พ.ย. ซึ่งไม่ได้จัดอย่างยิ่งใหญ่มา 2 ปีแล้ว จากโควิด จึงต้องจัดสรรทางเข้าและทางออกอย่างชัดเจน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ตรวจนับจำนวนคน ไม่ให้มากจนเกินไป เน้นความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง

“ห่วงที่สุดคือคลองโอ่งอ่างที่อยู่ริมน้ำ แต่เรามีกล้องซีซีทีวีคอยจับความหนาแน่นของประชาชน... หากตรวจจับได้ว่ามีความหนาแน่นเกินไป ก็จะไม่ให้เข้า และเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น”

อีกบทเรียนที่นายชัชชาติสนใจจากภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิแทวอน คือ “ประชาชนสามารถทำซีพีอาร์ได้ ซึ่งทางกทม.ได้สอนในเรื่องนี้ และในอนาคตจะให้โรงเรียนในสังกัดกทม.มีหลักสูตรเกี่ยวกับการทำซีพีอาร์อย่างจริงจัง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอเกิดเรื่องมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ถือว่ามีความสำคัญ”