กลุ่มทะลุแก๊ส : กรมราชทัณฑ์เร่งสอบสวนการลักลอบนำของมีคมเข้ามาในเรือนจำ หลังผู้ต้องขังทำร้ายตัวเอง

สภาพภายในโรงพยาบาลสนามของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่เปิดเผยต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ก่อนการตรวจพบคลัสเตอร์กลุ่มก้อนใหญ่ในเรือนจำ

ที่มาของภาพ, ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์

กรมราชทัณฑ์ชี้แจงกรณีผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊สรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด รวมถึงการทำร้ายตัวเองด้วยของมีคม ในระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเกิดจากความเครียด

คำชี้แจงดังกล่าวจากกรมราชทัณฑ์เกิดขึ้นหลังจากนายอานนท์​ นำภา นักเคลื่อนไหว​ทางการเมือง ได้โพสต์​เฟซบุ๊ก​เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) ระบุว่า มีสมาชิกกลุ่มทะลุแก๊สที่ถูกคุมขัง ฆ่าตัวตายในคุก พร้อมขอให้กรมราชทัณฑ์​ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้

ต่อมาวันนี้ (28 มิ.ย.) นายอายุตม์ สินธพพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยหลังจากได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบว่าผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายใบบุญ ไทยพาณิช และ นายพุฒิพงศ์ สมบุญ ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือตัวเอง พร้อมด้วย นายพลพล จิตรสุภาพ รับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด เป็นเหตุต้องนำส่งไปรักษาตัวยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.

โดยอาการเบื้องต้นเมื่อวานนี้ ( 27 มิ.ย.) นายพลพล มีอาการดีขึ้น รู้สึกตัวได้ดี พูดคุยรู้เรื่องช่วยเหลือตัวเองได้ ยังรับประทานอาหารได้มากขึ้น ไม่มีอาการปวดท้อง แต่ยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเล็กน้อย นอนหลับได้ อาการเครียดดีขึ้นตามลำดับ อยู่ระหว่างการรักษาสังเกตอาการใกล้ชิด

จากการสอบถามโดยนักจิตวิทยา นายพลพล แจ้งว่าสาเหตุจากการกระทำดังกล่าว เกิดจากความเครียดในเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเป็นห่วงภรรยาที่ตั้งครรภ์ และเรื่องคดีความของตน แต่ก็จะพยายามปรับตัว ไม่คิดมากให้เกิดความเครียดอีก

เรือนจำ

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ในส่วนของ นายใบบุญ และ นายพุฒิพงศ์ ที่ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือนั้น พบว่ามีบาดแผล แต่ไม่รุนแรง พยาบาลประจำเรือนจำได้ทำการรักษาล้างแผลให้ทุกวัน โดยสาเหตุของการกระทำดังกล่าว แจ้งว่าเกิดจากความกังวลเรื่องทนายไม่มาติดต่อหรือพูดคุย แต่หลังจากได้เยี่ยมญาติและพบทนายแล้วทั้ง 2 ราย ก็รู้สึกเกิดความผ่อนคลายมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลักลอบนำยาพาราเซตามอลที่มีจำนวนมาก และการทำร้ายตัวเองด้วยของมีคมดังกล่าวเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก

ด้านนาย​สมศักดิ์​ เทพ​สุ​ทิน​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ผู้ต้องขังคนดังกล่าวมีอาการเครียด และได้กินยาพาราเซตามอล​เกินขนาด โดยยาพาราเซตามอลที่ได้มาผู้ต้องขังรายนี้ ได้มาจากผู้ต้องขังคนอื่นๆ ที่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่เพื่อลดอาการเครียดหลังจากถูกคุมขัง

มีผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊สทั้งหมด 11 ราย

คำบรรยายวิดีโอ, เสียงจากผู้ชุมนุม “ทะลุแก๊ส”

ข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ปัจจุบันผู้ต้องขังคดีการเมืองกลุ่มทะลุแก๊สมีจำนวน 11 ราย โดยทั้งหมดถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากการชุมนุมที่บริเวณดินแดง ในวันที่ 11, 14 และ 15 มิ.ย. ในจำนวนนั้นมีเยาวชนอายุ 15 ปีรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ทนายความจากศูนย์แห่งนี้ที่เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังได้ระบุว่า ผู้ต้องขังแต่ละคนอยู่ในภาวะเครียดอย่างเห็นได้ชัด แทบทุกคนกินอาหารได้น้อยลงเพียงวันละ 1 มื้อ หรือบางวันก็ไม่กินเลย

ขณะที่นายธีรวิทย์ได้ทำการอดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. เพื่อทวงคืนความยุติธรรมเช่นกัน โดยกินแต่น้ำเปล่าและเกลือแร่เท่านั้น