นักธุรกิจหญิงผู้บุกเบิกฟาร์มเพาะเลี้ยงหอยทากของปากีสถาน

snail

ที่มาของภาพ, Getty Images

  • Author, อุไมร์ ข่าน อาบัด
  • Role, บีบีซีแผนกภาษาอูรดู

ซิดรา ซัจจาด อาศัยอยู่ในเขตชนบทในแคว้นไคเบอร์ปัคตุนควา (Khyber Paktunkhwa) ของปากีสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาและเป็นแหล่งที่อยู่ของหอยทากจำนวนมาก

3 ปีก่อน ซิดรา ซัจจาด เกิดวาบความคิดขึ้นมา เธอเคยได้ยินมาว่าเมือกหอยทากเป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์เสริมความงามของเกาหลี และเป็นที่ต้องการอย่างมากจากทั่วโลก รวมถึงในปากีสถานด้วย

“ฉันคิดว่าเมือกหอยทากที่นี่มีคุณภาพดีมาก เนื่องจากมีจำนวนมาก” เธอกล่าว

นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ ซิดรา ก่อตั้งฟาร์มหอยทากขึ้นมา ก่อนที่ธุรกิจของเธอจะเติบโตอย่างมั่นคง โดยมีลูกจ้าง 30 คนในปัจจุบัน

เมือกหอยทากคืออะไร ทำไม ซิดรา ถึงเลือกเพาะพันธุ์เมือกหอยทาก?

หอยทากจะขับของเหลวคล้ายวุ้นที่เรียกว่าเมือกหอยทาก ซึ่งเป็นส่วนผสมทั่วไปในครีมทาหน้าและผลิตภัณฑ์เสริมความงามอื่น ๆ ของเกาหลี

โดยทั่วไปเมือกหอยทากจะไม่พบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในอเมริกาหรือยุโรป ทว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการผลิตภัณฑ์ของเกาหลีเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก เพราะเชื่อกันว่าเมือกหอยทากมีประโยชน์อย่างมากต่อผิวหนัง

ฟาร์มของ ซิดรา สกัดเมือกจากหอยทาก แล้วขายให้กับบริษัทผลิตเครื่องสำอางต่าง ๆ รวมถึงผลิตสินค้าบางชนิดเองด้วย

“เมือกหอยทากกำลังกลายเป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์เสริมความงามทั่วโลกอย่างรวดเร็ว” เธออธิบาย

ความนิยมในผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทาก ทำให้พวกมันกลายเป็น “สินค้าขายดี” ในหมวดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างแอมะซอน (Amazon)

ข้อมูลของยาฮูไฟแนนซ์ (Yahoo Finance) ระบุว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามจากเมือกหอยทากทั่วโลกมีมูลค่า 1.37 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4.5 หมื่นล้านบาท) ในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 2.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 7.9 หมื่นล้านบาท)

Sidra Sajjad

การเพาะเลี้ยงเมือกหอยทากทำอย่างไร และนำไปใช้เชิงพาณิชย์ได้อย่างไร?

“เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ฟาร์มหอยทากต้องอยู่ในสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม และพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเจ้าหอยทาก” ซิดรา อธิบาย

เราสามารถเนรมิตฟาร์มหอยทากขึ้นได้ในพื้นที่ขนาดเล็กเพียง 3,000 ตารางฟุต และควรออกแบบฟาร์มที่ป้องกันไม่ให้หอยทากหลบหนีไปได้

เธอเสริมว่า “หอยทากไม่ชอบความร้อนและแสงแดด ดังนั้นฟาร์มควรอยู่ในที่ร่มในระหว่างวัน”

“1 เดือนหลังคลอด หอยทากจะสามารถผลิตเมือกได้” ซิดรา อธิบาย

“เมือกหอยทากส่วนใหญ่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เมือกหอยทากประกอบด้วย ไกลโคโปรตีน กรดไกลโคลิก และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเมือกหอยทากจึงถูกนำมาใช้ในครีมและเซรั่มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ชะลอวัย ยกกระชับและทำให้ผิวนุ่มนวล”

การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเมือกหอยทากยังมีจำกัด แต่ก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว ทั้งนี้บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature Communications ในปี 2023 ระบุว่า เมือกหอยทากมีคุณสมบัติในการรักษา ฟื้นฟู และต้านการอักเสบ

ต้องลงทุนเท่าไหร่ ธุรกิจถึงจะมีกำไร

snails on sidra's hand

ในฤดูกาลนี้ ซิดรา เก็บหอยทากได้ประมาณ 20,000 กิโลกรัม ซึ่งราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 200 รูปีปากีสถาน ทำให้หอยทากมีมูลค่าราว 4 ล้านรูปี (ประมาณ 14,300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.7 ล้านบาท)

เธอบอกว่า ต้องใช้หอยทากประมาณ 15 กิโลกรัม ในการสกัดเมือก 1 กิโลกรัม ดังนั้น หอยทาก 20,000 กิโลกรัม จึงสามารถสกัดเมือกได้ประมาณ 1,333 กิโลกรัม

เมือกแต่ละกิโลกรัมขายได้ในราคาประมาณ 22,000 รูปี (80 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.6 พันบาท) ทำให้ได้เงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท)

ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้หญิงกำลังได้รับการฝึกฝนให้ทำธุรกิจนี้ ซิดรา เชื่อว่าการมีส่วนร่วมของผู้หญิงมีความสำคัญ เนื่องจากพวกเธอเป็นลูกค้าหลักของผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

“หอยทากจะหลั่งเมือกเมื่อถูกรบกวน”

อับดุลลาห์ ซัจจาด พี่ชายของ ซิดรา ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ฟาร์มหอยทาก เขาคอยดูแลเรื่องการให้อาหาร ความปลอดภัย และขั้นตอนการสกัดเมือก

“หอยทากชอบกินผักพื้นเมือง เช่น มะเขือเทศ แตงกวา กะหล่ำปลี และผักโขม นอกจากนี้ พวกมันยังชอบกินหญ้าด้วย” อับดุลลาห์ อธิบาย

“น้ำเมือกจะถูกสกัดโดยใช้กรรมวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นออร์แกนิก โดยวางหอยทากไว้ในตะกร้าตาข่ายแล้วเขย่าเบา ๆ เพื่อกระตุ้นให้หอยทากหลั่งเมือกออกมา”

จากนั้นนำเมือกไปเข้ากระบวนการในห้องแล็บ ผสมกับส่วนผสมอื่นๆ แล้วผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

four images showing snail slime extraction process. first one is showing snails in a box. second one is showing snails in a sieve. third one is showing mucus dropping down from the sieve. fourth one is showing the lab.

“หอยทากช่วยยกฐานะ-ทำให้เป็นที่ยอมรับสูงขึ้น”

ซิดรา รู้ว่า บางคนไม่ชอบหรือแม้กระทั่งรังเกียจหอยทาก “แต่ฉันรักหอยทากเพราะพวกมันเป็นแหล่งรายได้สำหรับฉันและหลายครอบครัว เจ้าหอยทากช่วยยกฐานะและทำให้ฉันได้รับการยอมรับสูงขึ้น” เธอกล่าว

นอกจากการสนับสนุนจากครอบครัวแล้ว เธอยังได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคจากมหาวิทยาลัยฮาซาราอีกด้วย

“ตอนแรกพวกผู้หญิงในครอบครัวขัดขวางฉัน แต่ตอนนี้พวกเธอไม่เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์เมือกหอยทากของเรา แต่ยังอยากร่วมงานกับฉันในธุรกิจของนี้ด้วย”